พึ่งจะดูละครซีรี่ย์จบไปเมื่อสักครู่นี้เอง หลังจากได้ยินชื่อเสียงมาครู่หนึ่ง ผลที่ได้เป็น… เดี๋ยวนี้ยังหลงอยู่ในข้าซูอยู่เลยคะ ^////^ ด้วยเหตุผลดังกล่าวเราจะขอเล่าทีละข้อเลยว่าเราชอบอะไร รวมทั้งเพราะเหตุไรต้องการที่จะให้ทุกคนดูนะคะ (ไม่มีสปอยจ้ะ อ่านได้เลย) 1. เนื้อเรื่อง คนใดกันบอกประเด็นนี้สายวาย เลยตั้งธงว่าจะไม่เข้ามาดูเด็ดขาด เราบอกเลยว่าคุณกำลังพลาดซีรีย์ที่ดีเลิศๆเรื่องนึง เนื้อเรื่องของปรมาจารย์ลัทธิมารเชิญชวนติดตามมากเลยจ้ะคะ เรานี่ลุ้นตลอดระยะเวลา บางช่วงบีบหัวใจอย่างยิ่ง ดราม่ากันจนเราร้องไห้ตามไปหลายตอน ส่วนเรื่องกำลังภายในนี่เราก็ชูให้จีนอยู่แล้วเนื่องจากเป็นงานถนัดพี่จีนเค้า ทุกสิ่งเลยออกมาดี โลเคชั่นที่ถ่ายทำก็สวยมากด้วย ซีจีสถานที่ก็เริ่ส (เราชอบท่าเรือสัตตบตระหนี่ชที่สุดเลย สวยรวมทั้งดูแพง) 2. ความวาย ประเด็นนี้มิได้วายเบอร์แรงแบบที่คุณคิดจ้ะ เนื่องจากหากพูดถึงความวายจ้ะ เราบอกเลยว่าเราเองก็ไม่ใช่สายนั้น เราเองยังรับความแรงเบอร์สิบแบบที่ซีรีย์วายอื่นๆไม่ไหวเลย 55 แม้กระนั้นพอมาดูประเด็นนี้ บอกได้คำเดียวว่า “ดีย์” จ้ะ มันพอดิบพอดี ไม่น่ารังเกียจ รวมทั้งลงตัวมากๆดีย์จนเราลืมไปเลยว่าประเด็นนี้มันไม่มีนางเอก หากไปอ่านนิยายหรือการ์ตูน บางทีอาจจะวายเบอร์แร๊งงมาก เราน่าจะยังรับไม่ไหว น่าจะเนื่องจากพี่จีนเอ็งกลัวซีรีย์โดนแบนด้วยแหละจ้ะ มันเลยได้มาแบบกึ่มๆละมุนๆประเภทที่ว่าหากคุณไม่ใช่สายวายก็ดูได้ แม้กระนั้นหากคุณเป็นสายวายอยู่แล้ว ก็จิ้นฟินจิกหมอนขาดก็ได้เลยตามความสะดวก 55 3. การเคสติ้งผู้แสดง อันนี้เราจำต้องปรบมือให้เขาเลย ป๋อจัดจ้าน (วั่งจีรวมทั้งเว่ยอิง) เคมีได้ทะลุเพดานไปเลยคะ น้องแสดงดีเลิศ สองคนนี้สามารถสื่อความรู้สึกทะลุผ่านจอออกมาถึงเราได้โดยที่เค้าเพียงแค่ยืนมองหน้ากันจ้ะ บ้าจริงเชียว คุณสุภาพสตรีทั้งหลายแหล่ คุณจำต้องเข้ามาดูความน่ารักน่าเอ็นดูของน้องเค้านะคะ ความดีงามของประเด็นนี้ ทำให้เราทราบดีว่า การแสดงออกของความรัก ความปรารถนาดีที่มีต่อกัน มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพูด จำต้องเดินมากอด หรือจูบอะไรทำนองนั้นเลย เอาเพียงแค่มองตากัน ก็ทราบแล้วว่าหวังดี ทราบแล้วว่าคิดถึง ทุกข์ใจ รวมทั้งเป็นห่วงแค่ไหน รวมทั้งไม่ใช่แค่สองคนนี้ แม้กระนั้นผู้อื่นก็สวยนุ่มนวลไปหมด คุณจะเป็นสุขมากๆแน่ๆจ้ะ 4. เพลง ซีรีย์ดี เพลงก็จำต้องเนื่องจากจริงมั้ยคะ เพลงประเด็นนี้เนื่องจากอีกทั้งเรื่องเลยคะ หลายๆเพลงนี่เอามาเปิดฟังก่อนนอนหลับสบายแน่นอน ทำเรายิ่งอิน โดยเฉพาะเพลงธีมของเรื่องที่ชื่อ 无羁 Wu-ji (ไม่มีผูกมัด) เราไปพบเวอร์ชั่นขลุ่ยจีนมาจาก Youtube เวอร์ชั่นนี้ไม่ใช่ Original ที่เปิดในเรื่อง แม้กระนั้นประทับใจมาก ต้องการที่จะให้ทดลองฟังกันจ้ะ ส่วนตัวเรา พอโน๊ตตัวแรกขึ้น น้ำตาไหลออกมาเลย ทดลองฟังดูนะคะ 5. ข้อคิดเตือนใจ ส่วนตัวเรา สิ่งที่เราได้จากประเด็นนี้เป็น คนเรานั้นเลือกเกิดมิได้จ้ะ แม้กระนั้นเราเลือกที่จะเป็นไปได้ เรามีสิทธิ์เลือกรวมทั้งตกลงใจได้อย่างอิสระเสรีว่าเราต้องการทำ หรือต้องการเป็นแบบไหน รวมทั้งมิตรภาพก็สามารถเกิดได้กับคนทุกชนชั้น ทุกเพศ ทุกวัย ไม่มีอะไรที่กีดกันสิ่งนี้ได้ ขอเพียงแค่เราเปิดใจและไม่อคติต่อกันจ้ะ จบไปแล้ว 5 ข้อหลักๆที่เราคิดได้ สำหรับคนที่กำลังมองหาซีรีย์ดู เราชี้แนะมากๆจ้ะ มีใน Netflix ด้วย Subtitle ก็แปลดีเลิศ…

สรุปสั้นๆ “การเขียนบทดำเนินเรื่อง ตามแบบฉบับของ แฟรี่เทล แน่ชัด แบบที่อ่านในมังงะเป๊ะ ดำเนินเรื่องฉับไว” งานนี้สมาชิกหลัก นัตสึ เกรย์ แฮปปี้ ชาร์ล ลูซี่ เอลซ่า เวนดี้ มาอยู่ในภารกิจหลัก และ อำเภอ มาชิมะ คนเขียนก็วางบทให้ ทีมรองรับงานในเกาะเดียวกัน กาซิล จูเบีย ลิลลี่ ทำให้แฟนคลับได้หายคิดถึง ซึ่งขอให้คะแนนความชื่นชอบ – แฮปปี้ เจ้าแมวที่มีไว้เพื่อตัดมุก แย่งซีน ปฏิบัติภารกิจได้ดิบได้ดี – จูเบีย ให้ 9 เลย น่ารักน่าเอ็นดู แย่งซีน ปลดปล่อยมุก เอื้อเฟื้อ – เกรย์ มากับมุกถอดเสื้อที่ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาด และตอนท้ายขยี้มุกนี้หนักมาก – กาซิล ไอ้คนลักขโมยซีน ถ้าเกิดพี่มึงโผล่มาลักขโมยซีนได้เลย คะแนนเซอร์วิส – ลูซี่ เอาชั้น 1 ไปเลย เซอร์วิสจนถึงเต็มปลอดที่จะอนุญาตให้ทำเป็นแล้วมั๊ง – รองชั้น 1 อาจต้องให้ ไทเทเนีย ในด้านเซอร์วิส เสียดายเปลี่ยนเกราะน้อยไปนิด – เวนดี้ ไม่มีเซอวิสสสสสสสสสสสสสสสสสสส จุดเด่น…

ดราม่าหนัก รักฉุดหัวใจฯ งงตอนจบ แห่กระหน่ำนาดาว โอปอล์ ขอมูฟออน แพทตี้ ปลอบประโลม ซันนี่ วิภาควิจารณ์กันหนัก และ อินกันหนักจริงๆกับเรื่องราวความรัก หมอเป้ง (ซันนี่ กาญจน์เมธาความยินดี) ทานตะวัน (ใหม่ ดาวิกา) และ หมอปลาฉลาม (สกาย วงศ์รวี) ใน รักฉุดหัวใจนายรีบด่วน ตอนอวสาน ทำเอาโซเชียลแห่กระหน่ำบทหัวข้อนี้ของ บริษัทนาดาวฯ ที่ให้บุคคลที่สามแย่งแฟนรุ่นพี่ก้าวหน้า บางคนรุนแรงถึงกับขนาดจะบุกเผากันเลย นาดาว กับ ฉากจบ รักฉุดหัวใจนายรีบด่วน โซเชียลอินกันหนัก เว้นเสียแต่ ซันนี่ ไม่ได้เป็นดารานำชายของเรื่องแล้ว ยังวิภาควิจารณ์เรื่องบทของเรื่องที่ปูมาให้ ปลาฉลาม หมอรุ่นน้อง เป้ง เข้ามาในความสัมพันธ์ของเป้ง และ ทานตะวัน แฟนสาว ก่อนสุดท้าย ที่ลุ้นกันมา 16 ตอน ฉากจบ ใครๆก็มีความคิดว่า ซันนี่ ดารานำชายพันล้าน ยังไงก็เป็นดารานำชายของเรื่องแน่นอน แม้กระนั้นสุดท้าย นาดาว ให้นางเอกกลับเลือก ปลาฉลาม แถมฉากจบ นางเอกยังกล่าวว่า ถึงแม้วันนี้จะไม่ได้รัก แม้กระนั้นคนแรกที่จะคิดถึงเสมอหมายถึงเป้ง ทำผู้ชมงง ถึงกับร้อง อิหยังวะ เขียนบทให้จบอย่างงี้ แถมวิภาควิจารณ์ว่า รักมา 15 ปี รับผิดแทนแฟนจนเกือบจะจำคุก แค่ทุ่มเทกับการเป็นหมอ ไม่มีเวลาตั้งใจ แม้กระนั้นไม่เคยนอกใจ แม้กระนั้นบทกลับผลักดันให้หมอรุ่นน้อง หนีเวรไปอยู่กับแฟนหมอรุ่นพี่ สุดท้าย แฟนเลือกหมอหนีเวร รุ่นน้อง อะไรมันจะเรียลเสมือนชีวิตจริงในสังคมขนาดนี้ จนมีบางคนตั้งชื่อหัวข้อใหม่ จาก รักฉุดหัวใจนายรีบด่วน เป็น รักฉุดหัวใจนายหนีเวร แถมไม่อินกับ คู่ ทานตะวัน กับ ปลาฉลาม ดราม่าหนักจนแท็ก #รักฉุดหัวใจนายรีบด่วนตอนอวสาน พุ่งอันดับต้นๆทวิตเตอร์ รวมถึง #ทีมหมอเป้ง ก็พุ่งลำดับหนึ่งเช่นเดียวกัน ในขณะที่ โอปอล์ ปาณิสรา ถึงกับทวีตใจความ ถึงทานตะวัน ให้พักก่อน พร้อมให้กำลังใจ หมอเป้ง ก่อนจะเตือนแฟนละครโซเชียล ที่อินหนัก ละครจบแล้ว มูฟออน เถอะ ในขณะที่คนภายในวงการสำราญใจ ทั้งยัง ปุ๊กกี้ ที่รับบท พยาบาลตั๊ก โพสต์ฮาถึงซันนี่…

เริ่มจากตัวนำของเรื่องก็คือแม่หญิงดวงแก้ว แล้วก็ หมวดโอปอ น้ำตาลแสดงให้เห็นว่านักแสดงสองคนนี้ “เป็นคนละคนอย่างแจ่มแจ้ง” คือเชื่อเลยว่านี่ล่ะคือโอปอแล้วก็นั่นคือดวงแก้ว พิจักขณา คุณ “เหน็ด” แต้ๆหนา ถัดมาพ่อหมอแห่งอโยธยา แรกๆก็อาจขัดหูขัดตาที่จังหวะจะโคนเนิบๆ แต่พอลองติดตามดูแล้วก็จะพบว่านี่คือ “หลวงยาวรเวช” จริงๆไม่ใช่เพื่อนฝูง-คณิณ แล้วก็ยิ่งเจอรอยยิ้มซื่อๆตามแบบฉบับคนเมืองศรี ก็ยิ่งตอกย้ำว่า “นี่มันไม่ใช่การแสดง” แต่คือผู้ที่มีตัวตนจริงๆ ส่วนดารานำชายอีกคนอย่างกระทิง แรกๆก็ขัดหูขัดตาเพราะเหตุว่ายังดูไม่ค่อยเนียนเยอะแค่ไหน แต่บทบู๊ทำให้เชื่อว่า “นี่แหละคือตำรวจ” แล้วก็ยิ่งดูยิ่งมีเสน่ห์บวกกับรอยยิ้มที่พยายามจะแอ๊วดวงแก้วทุกเมื่อ แต่ดูท่าจะเป็นคนขี้ร้อนมองเห็นเหงื่อไหลไคลย้อยทุกซีนเลยเสื้อผ้าแฉะหมด -___- เราชอบซีนบู๊ทุกซีน มันเท่มาก งามมากมาย แล้วก็เจ๋งมาก พี่หมอแล้วก็โอปอทำได้ดีกระทั่งอาจเปลี่ยนเป็นมาตรฐานซีนบู๊ของช่องไปเลยก็ได้ เพราะเหตุว่าเหมือนกับดูหนังใหญ่เลย แล้วก็ทำให้เชื่อว่าต่างหากที่เป็นนักแสดงในความจริงๆที่หลุดออกมาจากโลกนิยาย สรุปก็คือหัวข้อนี้ทำให้เราเชื่อว่ามันไม่ใช่การแสดง เพราะเหตุว่าทั้งลักษณะท่าทาง น้ำเสียง ลีลา แล้วก็ความละเอียดของบทละคร ที่มีที่ตำหนิน้อยมาก กระทั่งไม่ต้องการจะจับผิดอะไร ขอชื่นชอบดาราแล้วก็คณะทำงานมากมายจริงๆที่รังสรรค์ละคร “โคตะระดี” อย่างงี้มาให้เราหลงเพ้อละเมอหาแต่นักแสดงกันไม่เว้นทุกๆวัน…

ปีพ.ศ. 2231 ในช่วงกรุงศรีอยุธยา อชิระมนุษย์ดาวอื่นชายหนุ่มสุดหล่อเดินทางเข้ามาสำรวจทรัพยากรบนโลกพร้อม กับหมู่คณะ แล้วเขาก็ได้พบกับ แม่หญิงบัว แม่หญิงวัย 15 ปีผู้กระทำให้อชิระรู้จักกับคำว่าความรักแล้วก็ความตาย วันนั้นเธอเกือบจะตกจากหน้าผา แม้กระนั้นอชิระไปช่วยไว้ได้ทันทำให้อชิระไม่สามารถกลับไปขึ้นยานได้ทันการ เขาจึงติดค้างอยู่บนโลกนี้นับจากวันนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นปีพ.ศ. 2563 รวมแล้วตรงเวลาถึง 300 กว่าปีที่ผ่านมาอชิระดำเนินชีวิตผ่านหลายสมัยหลายยุคเพียงเพื่อรอให้ถึงเวลาที่เขาจะได้เดินทางกลับไปยังที่ๆเขาจากมาแล้วก็แล้วเวลานั้นก็มาถึง…ทางสถาบันดาราศาสตร์ของต่างประเทศแจ้งว่าในอีกราวสามเดือนด้านหน้านี้จะมีดาวหางโคจรเข้าใกล้โลกเยอะที่สุดในรอบหลายร้อยปี ซึ่งการเดินทางมาของดาวหางเหล่านั้นจะช่วยให้อชิระเดินทางกลับไปยังดาวของเขาได้ อชิระคอยคอยปัจจุบันนี้มานานแสนนาน…

ก็อตซิลล่า บอกชื่อนี้มาอาจไม่มีใครไม่เคยทราบ เพราะมันพูดได้ว่าเป็นตัวละครที่กลายเป็นพล็อตโคตรอมตะไปแล้ว รีเม้กกันมาไม่รู้จักกี่สิบภาค ทั้งยังเมะยุ่น ทั้งยังหนังฝรั่ง นานาประการดีไซน์น่าเกลียดน่ากลัว มีตั้งแต่ตัวสูงเท่าบ้านสองชั้น จนถึงไปถึงตึกระฟ้า เว่อร์วังไม่แพ้สเกลพลังระดับทำลายล้างเมือง ! ตอนนี้ในปี 2019 น้องก็อตก็กลับมาผงาดอีกรอบ หลังจากโชว์มาดดารานำชายไปในภาคที่แล้วปี 2014 เพียงแค่ตอนนี้มิได้มาตัวเดียว แต่ขนทัพสัตว์เทพคู่ต่อสู้สายแครี่ มาดันเลนแข่งกับก็อตซิลล่า เรื่องราวจะคืออะไร…

ปลิดปลิวแต่ว่าไม่เลื่อนลอย ‘นิรา’ คว้าเรตติ้งตอนจบ 4.7 สูงสุดในละครหลัง ถึงผู้ชมจะดูไปด่าทอไปกับความประพฤติของนักแสดงที่น่าหงุดหงิด แต่ว่าอย่างไรก็ดี ใบไม้ที่ปลิดปลิว ละครเรื่องแรกภายใต้การดูแลของ Change2561 ที่กระจายเสียงบนหน้าจอช่องวัน 31 ก็คว้าเรตติ้งตอนอวสานมากที่สุดในบรรดาละครหลังข่าวสารตลอดปีที่ผ่านมาของช่องไปเป็นระเบียบแล้วด้วยจำนวน 4.7 ใบไม้ที่ปลิดปลิว ลาหน้าจอไปด้วยความดราม่าสุดขีดเมื่อคืนนี้ที่ผ่านมา (20 เดือนสิงหาคม) แล้วก็สิ่งที่ผู้ชมทุกคนต่างเลื่องลือเป็นการแสดงของ ‘นิรา’ ซึ่งสวมบทโดย ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือดีเลิศไพบูลย์ ที่พรีเซ็นท์ชีวิตของทรานส์เจนเดอร์ผู้ปวดร้าวทรมาณแสนสาหัสออกมาอย่างดีเยี่ยม เรตติ้งของละครประเด็นนี้ในตอนออกสตาร์ทบางทีอาจยังเบาๆที่ราว 1.5-1.9 รวมถึงยังลุ่มๆดอนๆในเรื่องกระแส เพราะเหตุว่ากระจายเสียงชนกับ กลิ่นกาสะลอง ของช่อง 3 ในตอนที่ผ่านมาด้วย ก่อนที่เรตติ้งจะค่อยๆขยับขึ้นอย่างน่าสนใจด้วยความสนุกสนานของเรื่องราว รวมไปถึงยังติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในอันดับที่หนึ่งทุกสัปดาห์ โดยยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคืนนี้ที่แฮชแท็ก #ใบไม้ที่ปลิดปลิวตอนจบ ก็สามารถทะยานไปสัมผัสที่ชั้น 2 ของเทรนด์ทวิตเตอร์โลกได้ แม้ว่าจะมีข่าวสารร้อนอย่าง #พีชแพท แล้วก็ #แพทริเซีย คอยดึงความสนใจไปด้วยแซม-ยุรนันท์ แมลงผึ้งที่ปรึกษา เป็นอีกหนึ่งความน่าประทับใจของละครประเด็นนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เขากลับมารับเล่นละครในรอบ 11 ปี แต่ว่าเป็นการคืนฟอร์มในบท ‘ชมเครื่องหมาย’ ที่จำต้องแบกภาระทางการแสดงไว้พอเหมาะพอควรในช่วงท้ายเรื่อง แล้วก็เขาทำออกมาให้ผู้ชมค่อนข้างจะติดอกติดใจทีเดียว เรตติ้งสูงสุดในช่วงละครหลังข่าวสารเดิมเป็นของละครน้ำเน่าที่คงจะเฉื่อยชาลำไยหมดสวนที่สุดที่ปีอย่าง ทะเลอิจฉาริษยา ที่เคยทำเรตติ้งตอนจบสูงสุดไว้ราว 4.42 ก่อนที่นิราจะโค่นตำแหน่งลงด้วยจำนวนใหม่ที่มากกว่านิดหน่อย ส่วนถ้านับจริงๆเรตติ้งสูงสุดในด้านละครของช่องวัน 31 เป็นของละครเย็น สาวน้อยร้อยล้านวิว ที่เคยทำไว้ได้ถึง 4.8 ในตอนจบ ก.ย.ที่จะถึงนี้เป็นเกมของละครใหม่ยกล็อตที่ต่อสู้กันทุกช่อง มารอดูว่าคนใดกันแน่จะสามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆให้กับโทรทัศน์ไทยได้บ้าง! ใบไม้ที่ปลิดปลิว The Leaves

เนื่องจากหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบที่หนักนานัปการวัน วันนี้ก็เลยขอโดดเรียนมหา’ลัย ไปดูภาพยนตร์ไทยพึ่งเข้าเมื่อไม่กี่วันก่อน “Who…ปิดป่าหลอน” ที่แสดงนำโดย คุณแน็ก ชาลี ที่เราเคยชินแล้วก็เป็นคนดังของเราเสียหน่อย ตอนผมไปดูหนังเรื่องอื่นกับเพื่อนตั้งแต่ปีที่ผ่านมา มองเห็นป้ายสำหรับโฆษณาภาพยนตร์หัวข้อนี้ตั้งเอาไว้ โทนสีขาวดำที่เชิญชวนให้รำลึกถึงโปสเตอร์ภาพยนตร์ตระกูลแพร่ง กับเรื่องราวที่จั่วหัว กล่าวถึงเรื่องคนกลุ่มหนึ่ง กับสถานที่ออกแนวปิดตาย ทำให้ผมรำลึกถึงหนังแนวสอบสวนของประเทศญี่ปุ่น แล้วก็หนังแนวระทึกขวัญของฝรั่ง ที่ว่าด้วยเรื่องคนปริมาณหนึ่ง มารวมตัวกันอยู่ในสถานที่ที่มีข้อจำกัด แล้วก็เกิดสถานการณ์ที่กดดัน ทำให้ต้องเผยธาตุแท้ของกันและกันออกมา ประเทศไทยมิได้มีแนวนี้บ่อยมากนัก ผมก็เลยมีความสนใจมานานนมแล้ว ประกอบกับเดี๋ยวนี้อยากดูหนังสักเรื่อง แล้วก็อุตส่าห์โดดเรียนมาแล้ว (การกระทำที่ไม่ดี ขออย่าประพฤติตามครับ) เลยจัดภาพยนตร์หัวข้อนี้เสียหน่อย เรื่องราว : นาย “เปี๊ยก” (แน็ก ชาลี) ชายหนุ่มเซอร์ นศ.มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แอบรักสาวร่วมสถาบัน เผอิญมองเห็นสาวคนดังกล่าว คุยกับกลุ่มเพื่อน ตอนที่รุ่นพี่ (ซ้ำชั้นมาจะปีที่ 8 แล้ว) จัดโต๊ะเชิญชวนรุ่นน้องเข้าค่ายเดินป่าในป่าที่เช้าใจกันว่าเมื่อเข้าไปแล้วอาจไม่ได้กลับออกมาอีก ว่าอยากเข้าค่ายเดินป่าดังที่กล่าวมาแล้วด้วย นายเปี๊ยกที่อยากตามแฟนสาว ก็เลยตกลงเข้าค่ายที่จะพากันไปในสถานที่ที่แค่ฟังการกล่าวถึง ก็ไม่น่าไปแห่งนี้แล้วกับเขาด้วย เมื่อค่ายเริ่มขึ้น นิสิตมหา’ลัยรวม 8 คนได้ไปสมทบกับนายพรานประจำสถานที่ ผู้มีความชำนาญที่ในป่าดังที่กล่าวมาแล้วอีก 2 คน ณ สถานีรถไฟใกล้ป่า พร้อมเดินตบเท้าเดินสู่ป่าใหญ่ที่มีกลิ่นบางสิ่งไม่น่าไว้วางใจ ฟ้าที่เปิดเปิดโอกาสตอนลงจากรถไฟ เมื่อ 10 ชีวิตเข้าป่า กลับมืดมนลงทันใดคล้ายเป็นลางร้ายบางสิ่ง หารู้ไม่…นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการถึงแก่กรรมโดยตลอดที่กำลังจะตามมา หรือนี่จะเป็นอาถรรพณ์ของป่าที่มิสามารถประมือกันได้ แต่ถ้าหากไม่ใช่ หรือมันจะเป็น… ความคิดเห็นต่อเรื่องราว : เป็นภาพยนตร์ได้เรื่องราวดี ไม่สิ…ต้องเรียกว่าเป็นเรื่องราวระดับเซฟโซนของหนังแนวเดียวกัน แล้วก็เป็นเรื่องราวที่แปลกใหม่สำหรับภาพยนตร์ไทย เนื่องจากว่าภาพยนตร์ไทยไม่ค่อยมีแนวนี้เท่าไหร่ ส่วนมากก็มักจะเป็นแนวสอบสวนโทนหนัก หรือไม่ก็แนวผีสางเต็มดูดไปเลยเสียมากกว่า หัวข้อนี้นับว่าเป็นกลางระหว่างแนวสอบสวนแล้วก็ผีสาง ออกแนวมิสเทรี่ ลึกลับ แนวๆคนใดกันแน่เป็นคนทำ (Whodunit) อยู่เนืองๆ ความคิดเห็นต่อภาพยนตร์ : อย่างที่กล่าวไป ภาพยนตร์หัวข้อนี้ได้เรื่องราวเซฟโซนที่ดี ที่เหลือก็คือการถ่ายทอดออกมาให้ดี สมกับที่ไต่ระดับอยู่บนเซฟโซน ผลเป็น…ที่มีดี น่าจะมีเพียงเรื่องราวแค่นั้น ลำดับเรื่อง การถ่ายทอดของภาพยนตร์หัวข้อนี้ค่อนข้างงง ฉาบฉวย ไม่เรียงร้อยต่อเสียจนถึงผู้ชมมึน การนำทิวทัศน์เดิมๆกลับมาฉายซ้ำ ทำให้มีความรู้สึกซ้ำซากจำเจอย่างไรชอบกล ก่อนจะถึงหนึ่งในสามทั้งหมดของภาพยนตร์ เป็นช่วงปูตัวละครทั้ง 10 คนที่จะต้องเป็นคนเดินเรื่อง แล้วก็ติดอยู่ในป่าร่วมกัน ก่อนเกิดเรื่อง เป็นช่วงๆที่เหลวตุ้มเป๊ะที่สุด อยากใส่อะไรก็ใส่มาเต็มกำลัง บทสนทนาดูผิดธรรมชาติ ประดิษฐ์ประดอย นักแสดงนอกเหนือจากคนที่เราคุ้นตาคุ้นหน้ากันอย่างแน็ก ชาลี อาเล็ก สมชาย ศักดิ์กุลที่นับถือรัก แล้วก็นักแสดงที่ไม่ค่อยคุ้นตา แต่ยังพอเพียงเล่นถึงอยู่บ้าง แข็งเสียจนถึงน่าอึดอัดอย่างไม่น่าให้อภัย ผู้กำกับปล่อยผ่านมาได้อย่างไร คำกล่าวที่เว้นวรรคของนักแสดงที่เราไม่คุ้นหน้า (แต่ต้องถือว่าเป็นตัวละครหลัก เนื่องจากว่าอยู่ในกลุ่ม 10 คน) โดยไม่เป็นธรรมชาติอย่างกับตัวเองลืมบทกลางคัน แล้วก็ไร้การตัดต่อของคณะทำงานข้างถ่ายทำ ที่ควรทำให้มันลื่นไหล นี่ยังไม่นับตัวละครสมทบนอกเหนือคนทั้ง 10 ที่การแสดงนี่ท่องบทอย่างแกงจับฉ่าย แล้วก็เล่นใหญ่เสียจนถึงเฟคมากมายอีกนะ กลับมาที่เรื่องเรื่องราว แล้วก็การดำเนินเรื่อง ถ้าหากตัดสินแค่เรื่องราวกับการดำเนิน หัวข้อนี้จัดว่าพอเพียงไปวัดไปวาได้บ้าง ถ้าหากแต่การดูภาพยนตร์ เราต้องนำนักแสดงมาร่วมตัดสิน เนื่องจากว่าพวกเขาเป็นสาระสำคัญที่ถ่ายทอดเรื่องราวพวกนั้นออกมาด้วยการแสดงของพวกเขา จาก 10 คน มีนักแสดงมือโปร แล้วก็เล่นถึงอยู่ไม่ถึงครึ่งเดียว พูดอีกนัยหนึ่ง…คนเกินครึ่งของ 10 คนที่เป็นตัวละครหลักสำคัญ เล่นได้ค่อนข้างสอบตก ส่งผลให้คนที่แสดงได้โอเคก็ยังแบกไว้ไม่ไหว การรับส่งอารมณ์ก็เลยไปไม่ถึงกันแล้วก็กันในหมู่นักแสดง สำเร็จให้ผู้ชมรับอารมณ์ได้อย่างขาดๆเกินๆแปลงเป็นไม่อินไปในที่สุด ภาพยนตร์หัวข้อนี้ก็เลยแทบจะสอบตกในบัดดล เนื่องจากว่าตัวนักแสดง นี่ยังไม่นับเรื่องราวที่ถึงจะพอเพียงเข้าวัดได้ แต่ก็เรียกไม่ได้ว่าเข้าวัดไปได้ทั้งเรื่องนะ เนื่องจากว่ายังมีบางจุดที่เกิดการกระทำที่ไม่มีเหตุผลอย่างน่างงในตัวละครอีกต่างหาก (ก็แค่จุดนี้ไม่ใช่จุดใหญ่อะไรมากมาย คิดต่อเอาเองได้ ถ้าหากแต่มันเป็นการคิดเองของผู้ชม มิใช่ความต่อเนื่องที่หนังส่งมาให้โดยตรง) น่าเสียดายเอามากๆทั้งที่ถ้าหากนักแสดงเล่นดี หรือหามืออาชีพกว่านี้มา หนังหัวข้อนี้บางทีอาจจะยกระดับขึ้นมาขั้นหนึ่งเลยทีเดียว อ๋อ…มือตัดต่อ แล้วก็วางลำดับเรื่องด้วย ถ้าหากจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากกว่านี้อีกนิด น่าจะโอเค ซาวน์ช่วงที่ยังไม่เกิดอะไรขึ้นด้านในหัวข้อนี้ใส่มาได้ผิดจังหวะ แล้วก็น่าเบื่อหน่ายเอามากๆเหมือนกับรายการตัดต่อเองของพวกเด็กที่ทำเล่นกันในยูทูป ยังดีที่ตอนเรื่องเริ่มเดินอย่างจริงจัง ซาวน์ยังเปิดได้ถูกจังหวะอยู่ ตอนแรกก็กลัวว่าซาวน์จะมาผิดเรื่องราวกับครึ่งที่เปิดตัวตัวละครอยู่เสียอีก ถ้าหากมองดูในด้านการแสดง ต้องนับว่านักแสดงบุคคลอื่นนอกเหนือคนที่โอเคอยู่แล้ว แสดงดีขึ้นมาหน่อยนึง ไม่เคยรู้เนื่องจากว่าการบิ้ว หลังจากมีคนเสียชีวิตไปครั้งละคนๆของตัวเรื่องเองหรือเปล่า ที่พาให้มีความรู้สึกว่าเขาแล้วก็เธอพวกนั้น เล่นได้ดีขึ้น เมื่อตัวละครตายครั้งละคนๆจนถึงแทบจะหมดวง แล้วก็เหลือคนอยู่กลุ่มท้ายที่สุดแล้ว บรรยากาศค่อนข้างทำออกมาได้ดี น่าสงสัย หวาดระแวง ไม่น่าเชื่อ และไม่น่าวางใจคนใดกันแน่ทั้งมวล ถ้าหากผู้กำกับ หรือมือตัดต่อทำให้บรรยากาศพวกนี้มีตั้งแต่ในเวลาที่เรื่องเริ่มเกิดขึ้น อาจจะส่งผลให้การแสดงที่ไม่ถึงกับขนาดของคนหลายๆคนในเรื่องถูกมองข้ามไปได้ก็เป็นได้ แต่ก็น่าเสียดาย ที่บรรยากาศนี้อยู่เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆแค่นั้น หากแม้หัวข้อนี้จะดูราวกับว่าเป็นอาถรรพณ์ของสิ่งลึกลับในป่าดงพงไพร แต่ดูท่า…ข้อเท็จจริงแล้วจะเป็นฝีมือของผู้คนเป็นๆที่ยังมีลมหายใจ (แน็ก ชาลี ให้สัมพาษณ์เอาไว้วภาพยนตร์หัวข้อนี้มิใช่หนังผี) ยิ่งไปกว่านั้น…อาจอยู่ในฝูงคนทั้ง 10 เองอีกด้วย แต่ตอนสุดท้ายกลับกลายปลายเปิด ปล่อยให้คิดกันเอาเอง แม้จะมีการใบ้เอาไว้เปลี่ยนๆแล้วก็ตาม นี่อาจเป็นสิ่งที่คณะทำงานสร้างขึ้นมา เนื่องจากว่าต้องการที่จะให้ผู้ชมเก็บไปถก แล้วก็คิดเองกันอย่างบ้าส์ แต่เศร้าใจด้วย…มันเป็นสิ่งที่ให้เก็บไปคิดต่อได้อย่างแป๊กเอามากๆซึ่งมันไม่น่าเก็บไปคิดต่อขนาดนั้น หัวข้อนี้ขอไม่ให้แต้ม เอาเป็นว่าไม่ถึงครึ่งเดียวของคะแนนเต็มก็แล้วกันเป็นพอเพียง ถ้าหากเข้าไปดูแบบคาดหวังหนังลุ้นระทึก หาตัวฆาตกร แอคติ้งนักแสดง ผ่านไปได้เลยขอรับ แต่ถ้าหากไม่คาดหวังอะไร (ราวกับผม) อาจดูพอกล้อมแกล้มไปได้…

นานๆครั้งที่หนังเวียดนามจะมีโอกาสเข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเราแบบวงกว้างและก็ได้รอบฉายออกจะมาก แถมยังเข้าฉายทั้งคู่ระบบคือกล่าวภาษาเวียดนามและก็ฉบับพากย์ไทยอีกต่างหาก กุมารทองคำ KUMANTHONG (Thất Sơn Tâm Linh) ฉบับหนังเวียดนามประเด็นนี้ ได้รับแรงผลักดันมาจากเรื่องราวจริงในอดีตกาล โดยตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวอับโชคอย่าง ตรอก (หว่าง เอี๊ยน จีบี) สาวใบ้และก็หูหนวกที่ใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านชนบทของปากแม่น้ำโขง ชีวิตของคุณไม่มีอะไรพิเศษนัก กระทั่งวันหนึ่งมีชายไม่คุ้นเคยที่เดินทางล่องเรือมาหยุดที่หมู่บ้าน เขาชื่อ ลลิว ฮวน (กวาง ต๋วน) ที่อ้างตนเองว่าเขาเป็นหมอปราบผีและก็คนทรงเจ้า ซึ่งเขาได้ช่วยเหลือคนในหมู่บ้านจากการโดนมนต์ดำและก็ไสยเวทหลายราย จนราษฎรเริ่มสรรเสริญฮวนอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักฮวนเริ่มหลงใหลในตัวตรอก ทำให้เขาตกลงใจขอคุณแต่งงาน เริ่มแรกตรอกรู้สึกโชคดี แม้กระนั้นไม่นานนักคุณเริ่มศึกษาและทำการค้นพบว่าความรักครั้งนี้มากับจุดหมายแอบแฝง เมื่อคุณได้ศึกษาและทำการค้นพบว่าผัวของคุณนั้นมีอดีตกาลอันลึกลับ และก็กลยุทธ์ร้ายที่ เขาจะใช้ชีวิตมนุษย์เซ่นสังเวยเพื่อทำพิธีบาปบางอย่างให้บรรลุผล แล้วคุณจะเอาชีวิตรอดเช่นไรเมื่อค้นรอบกายไม่มีใครเชื่อ “สาวใบ้” อย่างคุณเลยสักคน ถึงแม้กุมารทองคำ KUMANTHONGจะมีวิธีการเดินเรื่องที่ดูเชยๆแม้กระนั้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ ใสซื่อและก็พรีเซ็นท์ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างแบบตรงไปตรงมา ชัดตามสไตล์ “หนังไทยโบราณ” อาทิ นางเอกที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ สาวตัวร้ายที่เปิดเผยจริตความมารยาสาไถยให้ผู้ชมเห็นตั้งแต่ตอนแรก คนที่อยู่รอบข้างนางเอกที่ดูไร้ไหวพริบ ตัวร้ายในรอยเปื้อนผู้แสดงนำชาย เป็นต้น สิ่งพวกนี้ถูกนำไปผูกอยู่กับวิถีแนวความคิดที่ว่า “กำเนิดเป็นหญิงตามที่เป็นจริงทุกข์ยากลำบาก” ได้อย่างน่าดึงดูด เราจะเห็นตั้งแต่ต้นเรื่องว่าตรอก เป็นสาวใบ้ที่ถูกสังคมแกล้งไม่ว่าจะเป็นเด็กๆที่เห็นคุณเป็นตัวตลกโปกฮา ราษฎรที่มองดูคุณ “ต่ำ” กว่าคนสามัญ (หลายครั้งมักจะมีประโยคที่ว่า “คนเป็นใบ้จะไปรู้เรื่องรู้ราวอะไร”) แถมการที่คุณแต่งงานกับฮวน ยังถูกบรรดาเพศหญิงแซ่บๆคนอื่นๆ มองดูคุณว่า เพศหญิงคนนี้มีอะไรดีมากกว่าตนเองจนถูกผู้หญิงเหล่านี้ดูถูกด้วยสายตาบ่อย มิหนำซ้ำ หนังยังปรากฏฉากที่ ตรอกวิ่งหนีฮวนด้วยความกลัว ภายหลังศึกษาและทำการค้นพบความจริงอันน่าตกใจที่ว่าเพศหญิงที่ล่องหนไป เปลี่ยนเป็นศพนอนไม่มีหัวอยู่ใต้ถุนบ้าน การที่ตรอกวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากพ่อ กลับโดนผัวตนเองมาลากตัวกลับไปอยู่ที่บ้านไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างหน้าตาเฉย ฉากพวกนี้เป็นเรื่องราวสะท้อนดวงใจและก็ทำให้ผู้ชมเห็นใจตัวละครตรอก ว่าคุณโดนสังคมทำร้ายในทุกต้นแบบเลยก็ว่าได้ แน่ๆว่าการที่ผู้ชมได้เห็นนางเอกโดนปฏิบัติย่ำยีมาตลอดทั้งเรื่อง ช่วงไคลแมกซ์ที่คุณต้องฆ่าให้รอดจากผัวของตน ก็เลยนับว่าเป็นไฮไลท์ที่จัดได้ว่าตื่นเต้น น่าเอาอกเอาใจช่วยตัวละครอย่างแท้จริง และก็ยังเปิดเผยความจริงที่ว่าในที่สุดแล้วแม้กระทั่งสังคมรังควานคุณมากแค่ไหน เพศหญิงใบ้อย่างตรอกก็ต้องสู้ยิบตา เพื่อให้ตนเองมีชีวิตรอดถัดไป ถ้าคนใดกันแน่อยากจะทดลองสัมผัสหนังเพื่อนบ้านของเราในโรงภาพยนตร์ นี่คือโอกาสที่ไม่น่าพลาด เนื่องจากนานทีปีหนถึงจะมีความสนุกสนานจากเวียดนามมาขึ้นหน้าจอใหญ่ครับผม กุมารทองคำ KUMANTHONG

ทำใจไว้แล้วว่าไม่เกี่ยวอะไรกับภาคแรก แม้กระนั้นพอดูก็รู้สึกน่าผิดหวังอยู่ดี หนังมาพร้อม High Concept สูงมาก มีความทะเยอทะยานสูง ทั้งการบ้านการเมือง ดราม่า เอเลี่ยน กระทั่งถึงพระเจ้า การผลิตมนุษย์ แม้กระนั้นดูแล้วเสมือนเมากาว มาเล่าแบบแถๆมากกว่า เสียดายเซ็ทอัพมัน มันพร้อมจะเป็นหนังที่ดีได้ แม้กระนั้นหนังเล่าแบบขาดๆเกินๆจะตลกขบขันก็ไม่ตลกเต็มที่ / จะเอาจริงเอาจัง ก็ไม่ซีเรียสเต็มที่อีก…